Wednesday, April 13, 2011

การสร้างสื่อด้วย Windows "Live" Movie Maker

ในโพสต์มี่ผานมาเราก็พูดถึงการใช้โปรแกรม Windows Movie Maker ใน XP สร้างสื่อไปแล้วนะคะ แต่สำหรับคนที่ใช้ Windows 7 OS ตังโปรแกรม Windows Movie Maker จะไม่ได้ติดตั้งไว้ให้ เราต้องใช้ โปรแกรม Windows "Live" Movie Maker ค่ะ ถ้าไม่ได้ติดตั้งมากับเครื่องให้ไป download ที่นี่ค่ะ http://explore.live.com/windows-live-movie-maker?os=other

สำหรับการเตรียมการก็เหมือนกับทำสื่อใน Windows Movie Maker ค่ะ คือถ้าจะทำสื่อสอนศัพท์ ก็ใช้ภาพนึ่ง หรือวิดิโอคลิป คสีปเสียงสอนคำศัพท์ และคลิปเพลง Background ในตัวอย่างจะใช้เรื่องเดิมทำใน Windows Movie Maker นะคะ เรามาดูกันว่าใน Windows Live Movie Maker มีการใช้งานต่างกันยังไงบ้าง แต่ถ้าเคยใช้ตัวของ XP มาแล้วมาใช้ตัวนี้ก็เหมือนขับรถเกียร์กระปุกแล้วเปลี่ยนมาขับเกียร์ออโตแหละค่ะ ^^

1. เปิดโปรแกรมขึ้นมา จะเห็นหน้าตาโปรแกรมตามรูป ให้ไปที่ Home หรือหน้าแรก แล้ว Add Videos or Photos ภาพที่เราต้องการใช้มา หรือจะใช้วิธีลากมาวางในโปรเจคก็ได้ ควรเริ่มจัดการภาพก่อนนะคะ เมื่อนำเข้าคลิปที่้องการจะเห็นว่า ภาพที่เรานำเข้ามาจะอยู่ในลักษณะ storyboard มีจอ preview อยู่ขวามือ ซึ่งจะแสดงผลภาพแรกใน storyboard คราวน้ก็ให้เราย้ายตำแหน่งของภาพใน storyboard ให้อยู่ในลำดับที่ต้องการ ลองเล่นดูใน Preview นะคะ ตัวเลขใต้จอ preview คือเวลาของคลิปค่ะ

2. มาปรับเวลาของแต่ละคลิปกันก่อนนะคะ ดับเบิลคลิ๊กที่คลิปภาพแล้วจะเห็นว่าเมนูด้านบนจะมี Video tools ปรากฏขึ้น ให้เลือก edit แล้วคลิ๊กที่ duration แล้วเลือก 10:00 คือ 10 วินาที ทำแบบนี้ให้ครบทุกภาพนะคะ
3. เติม transition เพื่อให้รอยต่อระหว่างคลิปไม่สะดุด ค่ะ มาที่ home ใหม่ ที่เมนูด้านบนจะเห็น Animations ซึ่งใช้จัดการกับ transition ของคลิป กับ Visual Effects ซึ่งเป็นลักษณะพิเศษต่างๆ สำหรับ Transitions นี่ให้เลือก Animations ค่ะ ดูรูปด้านล่าง จะเห็นที่วงกลมไว้ด้านบนนั่นแหละค่ะ

หน้าตา เมนูของ transitions เป็นแบบนี้ค่ะ 1) กด arrow keys หา transition ที่ต้องการ 2) คลิ๊กเลือกรูปภาพที่ต้องการใช้ transition นั้น 3) คลิ๊กเลือก transition ที่จะใช้ 4) จะเห็นว่ามีรูปสามเหลี่ยมขาวขุ่นๆ อยู่ตอนต้นแสดงว่าภาพนั้นใช้ transition แล้ว 5) ถ้าเป็นคนรักเดียวใจเดียวก็เลือก Apply to all ค่ะ แต่ถ้าอยากเลือกหลายๆ แบบก็ไม่ต้องทำข้อ 5) นะคะ แต่ทำข้อ 1-2-3 กับทุกรูปแทน
4. ต่อไปก็ทำทำ Title กับ Credits ให้มาดู เมนูด้านบนนะคะ จะมีให้เลือก Title กับเครดิตนี่ เมื่อสร้างแล้วจะมีคุณสมบัติเหมือนเป็นคลิปภาพอีกคลิปหนึ่ง สามารถย้ายไปมาได้เหมือนกัน
เรามาสร้าง Title ต้นเรื่องกันก่อนดีกว่า เลือก Title เลยค่ะ เลือกแล้วจะเห็นว่ามีคลิปเพิ่มขึ้นมาอีกคลิปนึง (ความจริงเราสามารถเพิ่มได้มากกว่าหนึ่ง title) และจะเห็นว่ามีเมนูสำหรับจัดการข้อความปรากฏขึ้น ตรงวงรีนี่ใช้แก้ไขข้อความ เปลี่ยนสี Background และกำหนดเวลา ตรงสี่เหลี่ยมก็เป็นเมนูเหมือน word นี่แหละค่ะ ลองเปลี่ยนลองเลือกได้ตามอัธยาศัย ส่วนตรงที่เป็น ลูกศรกรอบสีแดง เลือก animation ของ title ค่ะ
ส่วน Credit ท้ายเรื่องก็เช่นกันค่ะ เลือก Credit พิมพ์ข้อความแล้วปรับเปลี่ยนตามใจชอบ รูปข้างล่างเป็นตัวอย่างที่เติม Title กับ Credit แล้วค่ะ
5. เติมเสียงอ่านคำศัพท์ ให้ไปที่ 1) Home 2) Add music คลิ๊กตรงสามเหลี่ยมเล็กๆ จะมีเมนูยืดออกมาอีกคือ Add music... กับ Add music at the current point 3) ให้เลือก Add music at the current point เลือกคลิปเสียงคำศัพท์ที่เตรียมไว้ค่ะ เอาเสียงที่ตรงกับภาพนะคะ 4) เมื่อเลือกได้แล้ว คลิปเสียงจะไปเริ่ม ณ จุดที่มีเส้นเวลาสีดำปรากฏอยู่
ดังนั้นเราเลื่อนเส้นเวลาไปยังตำแหน่งที่เราต้องการให้มีเสียงอ่านศัพท์เลย ควรตั้งไว้หลัง Transition เหมือนในรูปค่ะ อย่าลืมนะคะ สอนศัพท์ EFL เด็กเห็นภาพก่อน >>ได้ยินคำศัพท์ >> เห็นตัวอักษร
6. เมื่อเติมเสียงครบแล้วก็เติมคำอ่านค่ะจาก Home ในเมนูให้เลือก Captions ก็จะมีกรอบให้พิมตัวอักษรลงไป เราก็พิมพ์คำศัพท์ที่ต้องการ
ควรเริ่มโดยเลื่อนเส้นบอกเวลาไปไว้ที่ตำแหน่งตรงกับเสียงที่ได้เพิ่มไปก่อนหน้านี้แล้วเพื่อให้เสียงกับตัวอักษรสัมพันธ์กัน ใน Storyboard ตัวหนังสือจะเป็นแถบสีชมพูอยู่ได้ภาพ ส่วน Audio จะอยู่บนภาพค่ะ ตัวอักษรจะเริ่มปรากฏเมื่อถึงเส้นแบ่งเวลาค่ะ ในส่วนของ Caption เราสามารถปรับตัวอักษร animation และอื่นๆ ได้เหมือนกับ Title กับ Credit ค่ะ ดูตามรูปข้างล่างเลยนะคะ
7. เสร็จแล้วเราก็ Save Movie รอการตัดต่อรอบสุดท้าย ตามรูปเลยนะคะ 1-2-3 ส่วนลูกศรชี้ให้ดูว่าคุณสามารถ Save เพื่อนำวิดิโอไปใช้กับอุปกรณ์อื่นๆ เช่น Windows Phone หรือ Zune ได้เฉยๆ ค่ะ

8. เปิดโปรเจ็คใหม่ คราวนี้ให้ Add video ที่เรา save ไว้ในข้อ 7. เข้ามาค่ะ ตอนนี้อาจต้องให้เวลาโปรแกรมอ่านวิดิโอที่ได้มาซักเล็กน้อย แล้วก็ Add music เลือก เพลง ฺBackground ของเราเข้ามาค่ะ เพลงจะอยู่ด้ายบนของคลิปวิดิโอนะคะ
9. ลองเล่นดูนะคะ ถ้าเสียงมันดังแข่งกัยเสียงอ่านคำศัพท์ให้ Double Click ที่แถบเสียงจะมีเมนูปรากฏขึ้นด้านบน คลิ๊กขวาที่แถบเสียงตรงตำแหน่งก่อนเริ่มสอนคำศัพท์ เลือก Split เพื่อแยกคลิปเสียงเป็นสองส่วน ตามรูป
ทำซ้ำอีกครั้งเมื่อสิ้นสุดเสียงสอน คำศัพท์ค่ะ
คลิ๊กเลือกเสียงเพลงส่วนตรงกลาง เลือก Volume ลดเสียงลง ส่วนถ้าต้องการให้เสียงคลิปที่เลือกค่อยๆ ดังขึ้น หรือค่อยๆ แผ่วหายไปก็เลือก Fade in /Fade out แต่ต้องเลือกความเร็วของการ Fade ด้วยนะคะ
10. ลองเล่นจนพอใจ ไม่ปรับแก้ไขอะไรแล้ว ก็ Save movie ตามวิธีในข้อ 7. ค่ะ จากนั้นเราก็จะได้วิดิโอสอนคำศัพท์จาก Windows Live Movie Maker ไปใช้แล้วล่ะ

Post นี้ยาวเชียว อ้อ! ตัวอย่างวิดิโออยู๋ด้านล่างนะคะ

Tuesday, April 12, 2011

การสร้างสื่อด้วยโปรแกรม Windows Movie Maker ภาค 2 (Vocabulary) ตอนที่ 2

ต่อการทำวิดิโอสอนคำศัพท์ตอนที่สองค่ะ ตอนแรกอยู่ link นี้นะคะ http://tefl-tech.blogspot.com/2011/04/windows-movie-maker-2-vocabulary-1.html

เมื่อเราจัดการในส่วนของภาพและ title กับ credit ได้แล้ว เราก็มาดูเรื่องการออกเสียงกัน ให้ทำให้มุมมอง timeline ค่ะ

1. ให้ play ดูวิดิโอโดยดูจาก preview ด้านขวามือ .ให้ pause หลังจากที่ภาพปรากฏขึ้นแล้ว ให้ผู้เรียนเห็นภาพก่อนนะคะ จากนั้นให้ลากคลิปเสียงที่ตรงกับภาพมาวางไว้ตรงเส้นบอกเวลา ดังรูปค่ะ ดลิปเสียงจะมาอยู่ที่แถบ Audio/Music ด้านล่าง ทำแบบนี้จบครบทุกภาพ



2. ลอง play แล้วดู preview ว่าเสียงกับภาพสอดคล้องกันหรือยัง ถ้ายังให้ปรับจนกว่าจะเหมาะสมนะคะ โดยคลิ๊กเมาส์ค้างไว้ืที่ คลิปเสียงแล้วเลื่อนไปเลื่อนมาจนได้ตำแหน่งที่ต้องการ


3. คราวนี้มาเพิ่มตัวอักษรกันค่ะ มีภาพ มีเสียง แล้วก็ต้องมีตัวหนังสือ ให้ คลิ๊กภาพที่ต้องการจากนั้นเลือก ข้อ 2 >> Make tittles or credits พอมีรายการชึ้นมาให้เลือก คราวนี้ให้เลือกอันที่ 3 Add title on the selected clip แล้วให้ไป change animation โดยเลือกเป็น Titles, One line อยู่ตอนบนของกล่องเครื่องมือนะคะ จากนั้นค่อยเลือก Animation พิมพ์ คำศัพท์ กับตัวอย่างประโยคแล้วกด Done


4. Subtitle ของ ภาพที่เลือกจะปรากฏอยู่ล่างสุดในช่อง Title Overlay ค่ะ ให้ play แล้วปรับเลื่อนจนได้ตำแหน่งที่ต้องการ สามารพยืดได้ด้วนนะคะ เพื่อให้ตัวอักษรที่ปรากฎสอดคล้องกับเวลา


5. ลองเล่นดู ถ้าพอใจแล้วก็ให้ Save โดยไปที่ File >> Save Movie File ให้ Save .ใส่คอมพิวเตอร์โดยตั้งชื่อเป็น Draft เพราะยังไม่เสร็จค่ะ ในตัวอย่างนี้ตั้งชื่อเป็น Sports Draft ขั้นนี้เราก็จะได้วิดีโอสอนคำศัพท์ที่มีภาพและเสียงอ่านคำศัพท์ค่ะ


6. คราวนี้ให้เปิดโปรแกรม Windows Movie Maker ขึ้นมาใหม่ เป็นโปรเจ็คใหม่นะคะไม่เอาอันเดิม เข้าโหมด timeline แล้ว Import Video โดยให้ Import วิดิโอ Draft ที่เราทำในข้อ 5 ค่ะ แล้วให้ลากวิดิโอมาวางที่แถบสีฟ้าด้านล่าง ในขั้นนี้ถ้าวิดิโอยาวไปมันจะซอยให้เป็นคลิปที่สั้นลง เวลาลากมาวางบนแถบก็ให้เรียงตามลำดับอย่าสลับกันนะคะ เราจะเห็นว่า ในแถบตรง timeline จะมี Video อยู่แถบบน และ Audio อยู่แถบล่างใต้ Video ซึ่งเป็นเสียงที่มากับวิดิโอ หรือเสียงอ่านคำศัพท์ของเรานั่นเอง




7. Import Audio or Music โดยให้เลือกเพลงบรรเลงที่เตรียมไว้ เมือเสร็จแล้วก็ลากมาวางในแถบ ซึ่งเพลงจะมาอยู่ที่ Audio/Music ใต้ Video กับ Audio อีกทีหนึ่ง


8. เมื่อลงเล่นดู จะ้ได้ยินเสียงเพลงที่เอามาใหม่ดังกวนเสียงอ่านคำศัพท์ ดังนั้นให้คลิ๊กที่เพลงแล้วเล่นดูให้ pause ก่อนถึงการออกเสียงคำศัพท์ แล้วแยกคลิปเพลงโดยคลิ๊ก split clip ใต้จอ preview ตรงมีลูกศรสีแดงชี้ในภาพนะคะ





9. ให้แยกคลิปเพลงอีก 2 ครั้งคือหลังการออกเสียงคำศัพท์ครั้งสุดท้าย และตอนสิ้นสุดวิดิโอด้านบน


10. คลิ๊กขวาที่คลิปเพลงส่วนที่เกินวิดิโอมาและ delete ทิ้งไป

11. คลิ๊กขวาที่คลิปเพลงท่อนตรงกลางส่วนที่เสียงทับกับเสียงที่เราสอนคำศัพท์ เลือก volume แล้วปรับให้เบาลง เป็นเสียงคลอเบาๆ ใน background

12. คลิ๊กขวาที่คลิปเพลงท่อนสุดท้าย เลือก Fade in และ Fade out เพื่อให้เพลงแผ่วหายไปตอนจบวิดิโอ

13. ไปที่ File>>Save Movie File ก็เป็นอันว่าเสร็จพิธี วิดิโอตัวอย่างดูข้างล่างค่ะ นี่เบสิคมาก ชำนาญแล้วเติมลูกเล่นเองนะคะ

Monday, April 11, 2011

การสร้างสื่อด้วยโปรแกรม Windows Movie Maker ภาค 2 (Vocabulary) ตอนที่ 1

สำหรับโพสต์นี้เรามาสร้างสื่อ video สำหรับสอน vocabulary ด้วย Movie Maker กันดีกว่า สิ่งที่ต้องเตรียมมาก่อนคือ สร้าง Folder ใหม่ขึ้นมาเพื่อเก็บภาพและเสียงที่จะใช้ให้เป็นหมวดหมู่ดังนี้

1. ภาพนิ่งหรือวิดิโอ ของคำศัพท์หมวดหมู่ที่เราเลือกค่ะ ในตัวอย่างนี้จะเป็น Sports and Free Time Activities ให้เครดิตนิดนึง ภาพที่เอามาเป็นตัวอย่างดาวนืโหลดมาจาก http://office.microsoft.com/en-us/images/?CTT=97 ค่ะ ฟรีค่ะฟรี เอ....เค้าน่าจะให้ค่าโฆษณานะนี่ 

2. ไฟล์เสียงเพื่อประกอบภาพแต่ละภาพ แนะนำให้เตรียมแบบนี้ค่ะ  ให้ออกเสียงศัพท์แต่ละคำ 2 ครั้ง ตามด้วยออกเสียงประโยคตัวอย่างการใช้คำศัพท์นั้น  ไฟล์นี้เตรียมได้จาก web TTS ที่เคยพูดถึงไปแล้ว สำหรับในตัวอย่างนี้เอามาจาก Oddcast Demo จาก Post นี้ค่ะ http://tefl-tech.blogspot.com/2011/04/listening-online-text-to-speech-2.html ควรเตรียมเป็น 1ไฟล์เสียง ต่อคำศัพท์ 1 คำเลยนะคะ

3. ไฟล์เพลงประกอบ แนะนำให้เอาเพลงบรรเลงนะคะ จะได้ไม่แย่งความเด่นจากการออกเสียงคำศัพท์ ในตัวอย่างนี้ใช้เพลงของ Mozart เพราะเค้าว่ากันว่าช่วยพัฒนาสมองเด็ก ^o^

พอเตรียมทุกอย่างครบแล้วก็มาเริ่มกันเลยนะคะ สำหรับการใช้โปรแกรมเบื้องต้นถ้าใครลืมให้กลับไปดูโพสต์นี้นะคะ http://tefl-tech.blogspot.com/2011/04/windows-movie-maker-1-listening.html

1. เปิดโปรแกรม Movie Maker แล้ว Import Picture กับ Import Audio or Music ที่เตรียมไว้ใน 3 ข้อข้างบนเข้ามาให้เรียบร้อย

2. เปลี่ยนมุมมองจาก timeline เป็น storyboard โดยคลิ๊กที่ Show Storyboard เหนือแถบสีฟ้าด้านล่างดังภาพ แล้วใช้เมาส์คลิ๊กลากภาพมาวางในกรอบสี่เหลี่ยมดังภาพ



3.  เปลี่ยนมุมมองจาก storyboard เป็น timeline โดยคลิ๊กที่ Show Timeline เพื่อจัดการความยาวของคลิปภาพ เมื่อมาที่ timeline แล้วให้ตลิ๊กที่ดลิปแรกจะเห็นว่ามีกรอบสีดำรอบคลิปที่เลือก เลื่อนเมาส์ไปที่ขอบขวา พอเห็นลูกศรสองทางสีแดงปรากฏขึ้นให้คลิ๊กเมาส์ต้างไว้แล้วดึงคลิปให้ยืดออกให้มีความยามที่ต้องการ ในที่นี้แนะนำให้ใช้ความยาวไม่น้อยกว่า 0.00.10.00  หรือ 10 วินาทีนะคะ เผื่อเติม transition ด้วย ให้ปรับความยาวให้ครบทุกคลิป จะมีแถบบอกเวลาอยู่ด้านบนค่ะมีสัญลักษณ์แว่นขยายด้วย ถ้ามองไม่ถนัดขยายดูได้นะ

4.  เปลี่ยนมุมมองกลับมาเป็น Storyboard อีกครั้งค่ะ ความจริงขั้นตอนต่อไปนี้ทำใน timeline ได้ แต่ใน storyboard จะดูได้ชัดเจนกว่า เราจะมาเพิ่ม transition กัน เพื่อให้ภาพที่เราเอามาลงไว้ ไม่สะดุด เวลาเปลี่ยนจากภาพหนึ่งไปภาพหนึ่ง เมื่อพร้อมแล้วให้ไปที่เมนูด้านบน เลือก Tools >> Video Transitions


ให้ลาก Transition แบบที่ชอบมาวางไว้ให้ช่องสี่เหลี่ยมเล็กๆ ที่อยู่ระหว่างรูปภาพของเราดังภาพ ให้ทำทุกรูปนะคะ เพื่อความลื่นไหลของภาพยนต์ของเรา แล้วลองเล่นดู  ตอนนี้ถ้าเปิดไปดูใน timeline จะเห็นหลังจากเติม transition แล้วภาพของเราจะทับกันตรงรอยต่อ ไม่ต้องตกใจค่ะ มันเกิดจากการที่ transition เชื่อมภาพของเราให้ไม่กระโดด ถ้าลองเล่นดูแล้วพอใจแล้วก็ไปต่อนะคะ


5. Effects  ถ้าอยากเติม effect ให้แต่ละคลิปก็สามารถทำได้โดยไปที่ Tools >> Video Effects เมื่อมี effect ปรากฏขึ้มมาให้เลือกแล้วก็ให้ลาก effect ที่ต้องการมาไว้ที่รูปดาวที่มุมซ้ายล่างของแต่ละคลิปค่ะ

6. มาทำชื่อวิดิโอกับเครติตท้านเรื่องกันก่อนนะคะ คือถ้าเทียบกับหนังสือก็คือปกหน้าปกหลังนั่นแหละ ให้ไปที่เมนูด้านซ้ายและเลือกข้อ 2 >> Make tittles or credits พอมีรายการชึ้นมาให้เลือกให้เลือก อันแรกนะคะ คือ Add title at the beginning of the movie จะมีช่องขึ้นมาให้พิมพ์ข้อความตามรูป

พิมพ์แล้วสามารถเปลี่ยน animation หรือปรับ text โดยเลือก Change the title animation หรือ Change the text font and color ได้ตามรูป แต่อย่าลืม พอเสร็จแล้วให้ คลิ๊ก Done, Add title to movie เราก็จะได้ Title ตอนต้นเปิดตัววิดีโอของเราแล้วค่ะ จะมีคลิปเพิ่มขึ้นมา 1 คลิปตอนต้น ให้ใส่ transition เพื่อเกลี่ยรอยต่อระหว่างคลิปให้เรียบร้อย

จากนั้นก็มาทำเครติตท้ายเรื่องกัน ไปที่ ข้อ 2 >> Make tittles or credits พอมีรายการชึ้นมาให้เลือก คราวนี้ให้เลือก Add credit at the end of the movie แล้วก็ให้พิมพ์ข้อความในช่องที่มีให้ค่ะ อันนี้สามารถเลือกรูปแบบเหมือนข้างบนค่ะ เพิ่ม transition ให้เรียบร้อยนะคะ


ทุกครั้งที่จะแก้ไขข้อความอะไรให้มาคลิ๊กที่คลิปก็จะ สามารถแก้ไขได้

7. ใส่ Effect ที่คลิป Title ต้นเรื่อง กับ Credit ท้ายเรื่องได้นะคะ ในตัวอย่างเลือก  Fade in from white และ Fade out to white

โพลต์นี้ยาวแล้ว ต่อตอน 2 โพสต์หน้าค่ะ

Saturday, April 9, 2011

การสร้างสื่อด้วยโปรแกรม Windows Movie Maker ภาค 1 (listening)

ทำไมจึงต้องเป็น Windows Movie Maker? คำตอบคือ เราไม่จำเป็นต้องใช้มันหรอก เพียงแต่ว่าถ้า OS ในเครื่องของคุณคือ Windows โดยเฉพาะ XP มันก็มากับ Windows อยู่แล้วไม่ต้องซื้อไม่ต้องหา มีปัญหาอยู่นิดเดียวคือถ้า "Windows" ในเครื่องของคุณไม่สามารถ update ได้ด้วยกรณีใดๆก็ตาม Movie Maker อาจใช้งานตามฟังก์ชั่นที่มีอยู่ไม่ได้ หรือไม่สมบูรณ์ ...เรื่องจริงนะคะ

ถ้าคุณใช้ Windows XP หรือ Vista และ Update อยู่เป็นประจำก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร มาเริ่มกันเลยดีกว่า  ก่อนอื่น website ของ Microsoft ได้อธิบายและการใช้งาน Movie Maker ไว้แล้วนะคะ สามารถเข้ามาดูได้ที่ http://windows.microsoft.com/th-TH/windows-vista/Getting-started-with-Windows-Movie-Maker

บางครั้งเราจะพบว่าสื่อ listening ที่มีอยู่ตามท้องตลาด หรือที่มีให้ทาง internet ไม่ค่อยเหมาะกับเด็กเรา อาจยากไป เร็วไป ไม่น่าสนใจ หรือ context ไม่สอดคล้องกับสภาพจริง มาสร้างสื่อง่ายๆ กันดีกว่า ในโพสต์นี้ขอต่อเรื่อง สร้างสื่อ Listening นะคะ  ลองทำชุดคำถาม listening กันดูดีกว่า ทำเป็นแล้วเอาไปดัดแปลงได้นะคะ

1. ขั้นแรกต้องเตรียม script ค่ะ อาจเป็น Dialogue และมีแบบฝึกหัด และมีใบงานเตรียมไว้ให้เด็กด้วย


2. เตรียมวัตถุดิบได้แก่ คลิปเสียง  ใช้ TTS อ่าน Script ให้ ดูวิธีในการสร้างสื่อ Listening ภาค 1- ispeech (February 2011) กับ ภาค 2 - Oddcast (April 2011) นะคะ อาจต้องทำไว้หลายไฟล์ คำแนะนำคือถ้าเด็กเริ่มเรียนใช้ ispeech จะดีกว่าเพราะตั้งระดับความเร็วได้ด้วย เด็กที่คุ้นกับการฟังภาษาอังกฤษพอสมควรแล้ว ใช้  Oddcast ก็ดีนะคะ สร้างเสียงเสร็จแล้ว ให้เก็บมาใส่ Folder เดียวกันค่ะ เพื่อไม่ให้สับสนตั้ง folder ใหม่เลยนะคะ

3. เปิดโปรแกรม Windows Movie Maker ส่วนใหญ่มักจะอยู่ใน menu อยู่แล้ว ไปที่ Start >> All Programs >> Windows Movie Maker
ถ้าใช้เป็นครั้งแรก และไม่เจอที่นี่ให้ ลอง search หาดูนะคะ มันจะอยู่ใน C: >> Program Files>> Movie Maker >>moviemk เปิดแล้วหน้าตาจะเป็นแบบนี้

4. ใน Movie tasks ด้านซ้ายมือให้เลือกข้อ 1 >> Import Audio or Music หรือจะใช้วิธี Drag file เสียงมา drop ตรงพื้นที่ขาวๆ ตรงกลางก็ได้ค่ะ

5. จากนั้นให้ใช้เมาส์คลิ๊กลากไฟล์ที่ import ไว้มาวางตรงแถบสีฟ้าด้านล่าง มันจะสามารถวางได้ในช่อง Audio/Music เหมือนในภาพข้างล่างค่ะ เราสามารถลากคลิปเสียงให้ห่างจากกันเพื่อทิ้งช่วงในการฟังได้ ให้ทดลองเปิดฟังดูจาก ปุ่ม play เหนือแถบสีฟ้า หรือใต้จอสีดำค่ะ  อย่าลืมให้เส้นบอกเวลาตั้งต้นในแถบสีฟ้าอยู่ตำแหน่งเริ่มต้นจริงๆ ก่อนนะคะ


6. เมื่อฟังแล้ว เสียงที่ได้อาจดังไปเบาไป สามารถปรับได้โดย คลิ๊กขวาที่คลิปที่ต้องการจะปรับ ก็จะมี menu สำหรับจัดการคลิปเสียงขึ้นมาให้ดังรูป





จะเห็นว่ามีหลายอย่างมาก ที่สำคัญคือ Mute (ปิดเสียง) Fade In (เริ่มจากเงียบและค่อยๆ ดังขึ้นจนถึงระดับปกติ) Fade Out (เริ่มจากดังปกติแล้วค่อยๆ แผ่วหายไป) และ Volume สำหรับปรับความดังของเสียงของคลิปนั้น คลิ๊ก Volume แล้วปรับความดังตามต้องการ

7. เมื่อวางคลิปเสร็จหมด เปิดฟังดูรู้สึกว่าพอใจแล้วก็มาทำให้เป็นคลิปเสียงที่จะเอาไปใช้จริงกัน ไปที่ menu ด้านซ้ายมือค่ะ

เลือก ข้อ 3 Finish Movie >> Save to my computer ก็จะมี Dialogue Box ขึ้นมาดังภาพข้างล่าง ให้ตั้งชื่อ file เป้าหมายใหม่เพื่อความสะดวกแก่การใช้ และเลือกว่าจะให้นำไปเก็บไว้ใน Folder ไหน จากนั้นก็กด Next

จากนั้นจะมีขึ้นมาให้เราเลือกคุณภาพของเสียงถ้าไม่อยากคิดมากก็เลือกตามที่เขาตั้งให้ไปเลยค่ะ คลิ๊ก Next เมื่อแปลงเสร็จก็คลิ๊ก Finish
 File ที่ได้จะนามสกุล WMA หรือ Windows Media Audio ซึ่งเล่นในคอมพิวเตอร์ทั่วไปได้ โดยใช้โปรแกรมพื้นฐานของWindows คือ Windows Media Player เป็นต้น

8. ถ้าอยากได้เป็น MP3 หรือไฟล์เสียงแบบอื่นให้ใช้โปรแกรมแปลงไฟล์ ในที่นี้ใช้ Realplayer Converter ก็ได้ค่ะ ดูจาก Post นี้ http://tefl-tech.blogspot.com/2011/04/video-real-player.html

เอาล่ะ คราวนี้เราก็ได้สื่อ listening ไปใช้ในห้องเรียนแล้ว ทำเองได้ง่ายจัง ^____^

การทำสื่อ Listening โดยใช้เทคโนโลยี online text to speech ภาค 2

ใครที่อ่านตอน การทำสื่อ Listening โดยใช้เทคโนโลยี online text to speech ภาค 1 ไปแล้วก็คงคุ้นเคยกับ TTS - Text to Speech แล้วนะคะ ในตอนแรกแนะนำให้รู้จัก www.ispeech.org ซึ่งเก็บสื่อที่เราสร้างไว้ในบัญชีออนไลน์ของเรา เหมือนๆ กับ email นั่นแหละค่ะ คราวนี้เราจะมาต่อภาค 2 กัน

เว็บที่แนะนำวันนี้ชื่อ Oddcast ค่ะ ซึ่งตัวนี้เป็นตัว Demo ให้ลองใช้หน้าเว็บ ของจริงต้องซื้อ วันนี้เราจะมาใช้ Demo สร้างสื่อกัน แต่สำคัญมากนะคะ เราต้องมีโปรแกรมดาวน์โหลดพร้อมอยู่ในเครื่องแล้ว ใช้ Realplayer ก็ได้ค่ะ ในที่นี้แนะนำให้เข้าหน้าเว็บผ่าน Realplayer ได้เลยค่ะ เผื่อคนที่ใช้ browser อื่นๆ แล้ว download link ไม่ขึ้น  เข้าเรื่องกันเลยดีกว่า  ทำตามขั้นตอนเลยนะคะ


1.  เปิดโปรแกรม Realplayer  ไปที่ menu มุมซ้ายบน เลือก File >> Open หรือกด Ctrl+o


2. เมื่อมีกล่องเปิดขึ้นมาให้ใส่ที่อยู่เว็บของ Oddcast Demo คือ  http://www.oddcast.com/home/demos/tts/tts_example.php ในช่องที่อยู่ดังรูป คลิ๊ก OK


3. เราจะเข้าหน้าเว็บของ Oddcast Demo ดังภาพ จะเห็นว่าใต้ อวาตาร์จะมีช่อง 
    1) Enter Text เอาไว้พิมพ์ข้อความที่ต้องการให้โปรแกรมอ่านให้ฟัง
    2) Language (มีหลายภาษาให้เลือก แต่ถ้าพิมพ์เป็นภาษาอังกฤษ โปรแกรมก็จะพยายามอ่านภาษาอังกฤษด้วยสำเนียงของภาษาที่เลือก)  
    3) Voice เสียงที่เราต้องการ โดยเฉพาะภาษาอังกฤษจะมีหลายเสียงให้เลือก ทั้งผู้หญิง ผู้ชาย สำเนียงอังกฤษ อเมริกัน ออสเตรเลียน บลา บลา บลา เยอะค่ะ แต่เสียงที่แนะนำคือ Julie, Paul, Tom เพราะเวลาให้อ่านอะไรยาวๆ แล้วฟังดูไม่เป็นหุ่นยนต์มากนัก
    4) Effect ลักษณะเสริม ไม่แนะนำให้ใช้ในการทำสื่อการสอนค่ะ แต่ลองดูเล่นๆ ก็ได้
    5) Level เป็นระดับของ Effect ที่เราเลือก
    6) Say it เมื่อพิมพ์แล้วก็กด Say it โปรแกรมก็จะอ่านให้เราฟัง




ข้อดีของ Oddcast คือเสียงมีให้เลือกเยอะ พิมพ์เสร็จกด Say it ก็ได้ฟังเลย แต่สำหรับเวอร์ชั่นฟรี ไม่มีฟังก์ชั่นให้ดาวน์โหลด ตั้งระดับความเร็ว เก็บข้อมูลใน library และ ข้อความที่ให้อ่านแต่ละครั้งจะสั้นกว่า ispeech basic ซึ่งเป็นฟรีเวอร์ชั่นเหมือนกัน ก็เลือกเอานะคะ

4. เมื่อกด Say it ก็จะมี download link ปรกฏขึ้นที่มุมขวาบน คลิ๊กเลย

 5. ดาวน์โหลดไฟล์แล้ว ทุกไฟล์ที่ได้จากเว็บนี้จะชื่อเดียวกันหมดคือ  " Free demo to create avatars using Text-to-Speech (TTS) by SitePal "ดังนั้น ให้คลิ๊กขวาที่ชื่อไฟล์ใน Library เลือก "Rename" แล้วตั้งชื่อให้สะดวกแก่การใช้งาน




 6. ไฟล์ที่ดาวน์โหลดมาจะเป็น MP3 ค่ะซึ่งเราจะสามารถนำไปใช้ได้เลย หรือนำไปเป็นวัตถุดิบสร้างสื่อการเรียนการสอนได้ตามต้องการ โดยใช้โปรแกรมจำพวก Audio-video editing แบบสะดวกๆ ที่มักจะมีในเครื่องแล้วก็คือ Window Movie Maker ค่ะ แต่ท่านใดที่ถนัดโปรแกรมอื่นๆ ก็สามารถใช้ได้ตามอัธยาศัย

ลองทำดูนะคะ ตัวอวาตาร์ฮามาก



Sunday, April 3, 2011

การดาวน์โหลด video และแปลงไฟล์ด้วยโปรแกรม Realplayer

บางครั้งครูภาษาอังกฤษอย่างเราก็อยากให้นักเรียนได้ดู video ที่เราไปเห็นมาเพื่อฝึกภาษาหรือสร้างบรรยากาศในการเรียน หรืออยากเก็บวิดิโอที่ว่านั่นมาทำสื่อ เพราะบางโรงเรียน internet ก็เต่าเหลือเกิน จะเปิดให้นักเรียนดูจาก internet ก็ช้าจนไม่รู้จะช้ายังไง
วันนี้มีวิธี download วิดิโอจาก web ต่างๆ ค่ะ เงื่อนไขการใช้วิดิโอจาก webhosting ประเภท youtube คือต้องไม่นำไปเผยแพร่ เราสามารถ download ได้ แต่ ไม่ควรเอาขึ้นไปโพสต์ใหม่ในนามของเรา  ความจริงการ download มีหลายวิธี เอาตัวนี้ก่อนเลยนะคะ Realplayer เพราะมันฟรี มันดี และมีฟังก็ชั่นแถมมาเยอะ แต่ไม่แนะนำกรณีเครื่องเก่าและช้าอยู่แล้ว เพราะโปรแกรมอาจทำให้เครื่องอืดกว่าเดิมค่ะ มาเริ่มกันเลยดีกว่า

1. การ download วิดิโอคลิป ด้วย realplayer
ในเครื่องต้องมีโปรแกรม realplayer ถ้าไม่มีให้ download จาก  http://th.real.com/ 


    คลิ๊ก download now จากนั้นจะมี dialogue box ขึ้นมาถามให้ save file ก็ save แล้วพอ download เสร็จก็ให้ install ค่ะ ตรงนี้ให้เลือก basic player นะคะ อันอื่นเสียตังค์ จากนั้นให้ลงทะเบียนให้เรีบยร้อย เราก็จะได้ 1. Realplayer ซึ่งเป็นโปรแกรมสำหรับเล่น video file 2. Realplayer converter ซึ่งเป็นโปรแกรมสำหรับแปลงวิดิโอไฟล์ และ 3. Realplayer trimmer เป็นโปรแกรมสำหรับตัดแต่งวิดิโอไฟล์ค่ะ คุ้มมากๆ

    เมื่อติดตั้งแล้ว Realplayer จะมี addon ซึ่งใช้งานได้ดีกับ internet explorer ค่ะ
    มันจะทำงานโดยเมื่อเราเข้าเว็บที่มี video หรือ audio และเรา play สื่อเหล่านั้ัน Realplayer ก็จะจับ streaming media ได้ และจะปรากฏ download link ขึ้นมาดังในภาพ


    3.    มองหาแถบ “Download  This Video”  
           Click เพื่อ  download  



           File จะถูกเก็บไว้ใน My Document --> My Video --> Realplayer Downloads 
           File ที่ download จะสามารถเล่นโดยใช้ Realplayer ได้   
           
           2. การแปลง media file โดยใช้ Realplayer 
           ก่อนอื่นต้องมาดูฟังก์ชั้นของ ตัว Converter กันก่อนนะคะ  Realplayer แปลง media file ได้หลายประเภททั้งที่สำหรับใช้ในคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ หรืออุปกรณ์อื่นๆ ซึ่งพอสำหรับพวกเราที่ที่เอาไปใช้ในการเรียนการสอนค่ะ  แปลงได้ทั้งไฟล์วิดิโอและ ไฟล์เสียง ต้องลองเข้าไปดูนะคะ
           ถ้าเราจะไปเปิดใช้โปรแกรมเลย เมื่อ download โปรแกรมมาแล้วก็จะอยู่รวมกับ Realplayer ค่ะ เข้า Start-->All programs--> Real--> Realplayer Converter



       

            2.1  แปลงไฟล์ทันทีเมื่อ download เสร็จ 
           ถ้าเราอยากแปลงไฟล์ทันทีที่ download เสร็จ ให้ เลื่อนเมาส์ไปที่ไฟล์ใน library คือหน้าต่างที่แสดงการ download เลือกไฟล์ที่เราต้องการแปลง ซึ่ง download เสร็จแล้วจากนั้นก็จะเห็นคำว่า convert to ให้ คลิ๊ก ก็จะมีหน้าต่างใหม่ขึ้นซึ่งก็คือ Realplayer Converter นั่นเอง หน้าตาประมาณนี้

    จากนั้นให้เลือกตรง convert to ซึ่งในภาพจะเห็นเป็น Apple Ipod แปลว่าเราจะแปลง ไฟล์เพื่อเอาไปใช้ใน Ipod อันนี้สำหรับคนมี Ipod เล่นนะคะ แต่ถ้าไม่มี Click เลยค่ะ เราจะแปลงไฟล์ตามประสาครูน้อยกัน คลิ๊กเลยตามรูปค่ะ


     

           แล้วก็เลือก Select a Device ถ้าจะแปลงไฟล์วิดิโอก็ให้เลือก Video Formats ค่ะ 


          คำแนะนำคือเล่นในมือถือทั่วไปให้แปลงเป็น   3GP เล่นในคอมพิวเตอร์ แปลงเป็น WMV ค่ะ เลือกแล้วก็คลิ๊ก Start เป็นอันเสร็จพิธี


           2.2 แปลงไฟล์ที่เก็บไว้ในเครื่อง 
           เปิดโปรแกรม Realplayer Converter แล้ว Add .. โดยเลือก file ที่ต้องการแปลง เลือกได้มากกว่า 1 ไฟล์ค่ะ หรือจะใช้วิธี Drag-drop ลากไฟล์มาวางก็ได้ เหมือนกัน จากนั้นก็ทำตามวิธีในข้อ 2.1 ค่ะ


           คราวนี้เราก็จะได้ media file ไว้ใช้โดยไม่จำเป็นต้องเข้าไปเปิดใน internet ทุกครั้งที่ใช้ค่ะ ลองดูนะคะ